ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดแข็งค่า เคลื่อนไหวแคบ ๆ รอผลเฟดสัปดาห์หน้า

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่าดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในช่วงปลายตลาดเมื่อวานนี้ โดยซื้อขายผันผวนอยู่ในกรอบแคบ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่เริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็น (Blackout Period) ก่อนการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 2-3 พ.ค.ส่งผลให้ตลาดขาดปัจจัยชี้นำจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง

ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอีกครั้งในวันอังคาร

ทั้งนี้ สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ชะลอตัวลง แต่ดัชนีดังกล่าวยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด โดยนักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันที่ 28 เม.ย. โดยดัชนีดังกล่าวเป็นข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญตัวสุดท้ายก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมคำพูดจาก สล็อต777

สำหรับการเคลื่อนไหวของ fund flow ตลาดพันธบัตรไทยเมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,911 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 727 ล้านบาท

 ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดแข็งค่า เคลื่อนไหวแคบ ๆ รอผลเฟดสัปดาห์หน้า

แนะนำผู้นำเข้าควรซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อปิดความเสี่ยง และผู้ส่งออกแนะนำขายเงินตราต่างประเทศที่เหนือระดับ 34.50 บาท/ดอลลาร์

ราคาน้ำมันโลกสัปดาห์นี้ แนวโน้มขยับลงจากเฟดขึ้นดอกเบี้ยกดดัน

ราคาทองวันนี้ ปิดตลาดลด 50 บาท รอประชุมเฟดสัปดาห์หน้า

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.15-34.70 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 34.38 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.22-34.50 โดยการเคลื่อนไหวยังเป็นลักษณะย่ำฐาน sideways โดยเงินดอลลาร์ทรงตัวเทียบกับยูโรและเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลาดมั่นใจมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค.

อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินซึ่งมีความเชื่อมโยงสูงกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลังตัวเลขส่วนใหญ่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยและทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยได้อีกเพียงหนึ่งครั้งก่อนจะหยุดพัก แม้เจ้าหน้าที่เฟดให้ความเห็นว่าจะยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดว่ามีโอกาสเกือบ 90% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 25bp สู่ 5.00-5.25% ในวันที่ 3 พ.ค. ทางด้านเงินยูโรได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 4 พ.ค. ซึ่งมีโอกาสที่จะปรับขึ้น 50bp ในรอบประชุมนี้ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติมียอดขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 3,827 ล้านบาท และ 23,108 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)ซึ่งคาดว่าจะคงนโยบายตามเดิมในครั้งนี้แต่นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการสื่อสารและสัญญาณการปรับเปลี่ยนนโยบายที่ผ่อนคลายมากเป็นพิเศษในระยะถัดไปภายใต้ผู้ว่าการคนใหม่

นอกจากนี้ ตัวเลขจีดีพีและดัชนีต้นทุนการจ้างงานไตรมาส 1 ของสหรัฐฯรวมถึงค่าใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลเดือนมี.ค.จะอยู่ในความสนใจของตลาดเช่นกัน โดยเราประเมินว่าความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปัญหาภาคธนาคารซึ่งแม้จะคลี่คลายลงแต่ได้ฉุดรั้งความเชื่อมั่น รวมถึงประเด็นเพดานหนี้ช่วงปลายไตรมาสนี้จะช่วยจำกัดขาขึ้นของเงินดอลลาร์ ในทางตรงกันข้าม โมเมนตัมเศรษฐกิจนอกสหรัฐฯ นำโดย จีน กำลังอยู่ในวัฎจักรการฟื้นตัวโดยเปรียบเทียบ

สำหรับปัจจัยในประเทศ ตลาดจะให้ความสนใจกับข้อมูลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนมี.ค. ส่วนกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายอาจรอความชัดเจนทางการเมืองต่อไป ทางด้านธปท.ระบุในจดหมายเปิดผนึกถึงรมว.คลังว่าอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ สะท้อนความเชื่อมั่นว่านโยบายการเงินจะสามารถรักษาเสถียรภาพด้านราคาในระยะปานกลางได้

You May Also Like

More From Author